ภาพถ่ายมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่บันทึกโดยนักบินอวกาศบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในช่วงเวลาต่างๆ ตลอดวันที่ 11 กันยายน 2554 ภาพเผยให้เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นเหนือเขตแมนฮัตตัน ในขณะที่สถานีอวกาศโคจรอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 400 กิโลเมตร

ข้อความต่อไปนี้เป็นจดหมายจาก แฟรงก์ แอล. คัลเบิร์ตสัน (Frank L. Culbertson) นักบินอวกาศนาซา ผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้น สะท้อนความรู้สึกถึงเหตุการณ์ในวันที่ 11 กันยายน

12 กันยายน 2544, 19:34 น.

ตลอดเดือนที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับภารกิจอวกาศครั้งนี้เลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแทบไม่มีเวลาว่าง อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมไม่แน่ใจว่าควรเปิดเผยความในใจที่บอกเล่ากับครอบครัวและเพื่อนฝูงให้คนทั้งโลกรับรู้มากแค่ไหน

แต่แล้ว…วันนี้โลกก็เปลี่ยนไป สิ่งที่ผมพูดหรือทำดูไร้ความหมายไปเลย เมื่อเทียบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับประเทศของเราในวันนี้ เราถูกโจมตี…โดยใครกัน? ณ ตอนนี้เรารู้เพียงว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้าย ความโกรธและความกลัวกำลังเอ่อล้น แต่เราจะระบายมันใส่ใครได้…

เช้านี้ผมเพิ่งทำงานเสร็จไปหลายอย่าง ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการตรวจร่างกายลูกเรือทุกคน หลังจากนั้นผมได้คุยกับแพทย์ประจำเที่ยวบินเป็นการส่วนตัว เขาบอกว่าสถานการณ์ภาคพื้นดินกำลังเลวร้ายมาก ซึ่งผมไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร…

เขาเล่าสถานการณ์ให้ผมฟังเท่าที่เขาทราบ ณ เวลาประมาณ 09.00 น. ตามเวลา Central Daylight Time (CDT) ในวินาทีแรกผมทั้งตะลึงและตื่นตระหนก คิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง คิดว่าตัวเองกำลังฟังนิยายของทอม แคลนซีอยู่ การก่อการร้ายระดับนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในประเทศของเรา ผมไม่อาจจินตนาการถึงความเสียหายได้เลย ยิ่งเมื่อมีข่าวการทำลายล้างเพิ่มเติมเข้ามา ผมก็ยิ่งรู้สึกใจหาย

วลาดิเมียร์ (นักบินอวกาศรัสเซีย) สังเกตเห็นว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น เขาจึงรีบมาหา ผมเลยเรียกมิคาอิล (นักบินอวกาศรัสเซีย) ให้เข้ามาในโมดูลด้วย พวกเขาก็ตกใจและเสียใจไม่แพ้กัน หลังจากพูดคุยกันเสร็จ ผมพยายามอธิบายให้วลาดิเมียร์และมิคาอิลเข้าใจถึงความร้ายแรงของการก่อการร้าย ที่ใจกลางแมนฮัตตันและที่เพนตากอน พวกเขาเข้าใจและเห็นใจเป็นอย่างมาก

ผมเหลือบมองแผนที่โลกบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อดูตำแหน่งของเรา และพบว่าเรากำลังเคลื่อนตัวลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้จากแคนาดา อีกไม่กี่นาทีก็จะผ่านนิวอิงแลนด์ ผมรีบมองหาหน้าต่างที่จะทำให้เห็นนิวยอร์ก และคว้ากล้องที่อยู่ใกล้ที่สุดมา ซึ่งเป็นกล้องวิดีโอที่ติดตั้งไว้ในห้องโดยสารของมิคาอิล ผมมองลงไปทางทิศใต้

กลุ่มควันขนาดมหึมาพวยพุ่งขึ้นจากทางใต้ของเมือง ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างแปลกปลอมปะปนอยู่ที่ฐานของกลุ่มควัน หลังจากได้อ่านข่าวที่เพิ่งได้รับ ผมคิดว่าภาพที่เราเห็นน่าจะเป็นนิวยอร์กในช่วงเวลาที่หอคอยที่สองถล่มลงมา หรือหลังจากนั้นไม่นาน…

ผมแพนกล้องไปทางทิศใต้ตลอดแนวชายฝั่งตะวันออก เพื่อหาว่ามีกลุ่มควันที่วอชิงตันหรือที่อื่นอีกหรือไม่ แต่ก็ไม่พบ

หลังจากนั้น ผมรู้สึกยากที่จะจดจ่อกับงาน แม้ว่าจะมีงานที่ต้องทำอยู่บ้าง ในการโคจรรอบถัดไป เราเคลื่อนผ่านสหรัฐฯ ลงไปทางใต้ พวกเราทั้งสามคนต่างพยายามใช้กล้องถ่ายภาพนิวยอร์กหรือวอชิงตัน เหนือวอชิงตันมีหมอกควันปกคลุม แต่ไม่เห็นแหล่งกำเนิดที่ชัดเจน ทุกอย่างดูเหลือเชื่อเมื่อมองจากระยะไกลสองถึง 400 กิโลเมตร ผมไม่อาจจินตนาการถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเบื้องล่างได้เลย

นอกจากความสะเทือนใจที่ประเทศของเราถูกโจมตี และเพื่อนร่วมชาติหลายพันคน รวมถึงเพื่อนบางคนของผมอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว ความรู้สึกที่รุนแรงที่สุดในตอนนี้คือความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง


เครดิตภาพและข้อมูลอ้างอิง : NASA