ภาพนี้บันทึกโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2545 แสดงให้เห็นกาแล็กซี UGC 10214 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กาแล็กซีลูกอ๊อด” ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 420 ล้านปีแสง ในทิศทางของกลุ่มดาวมังกร

รูปร่างที่บิดเบี้ยวของมันเกิดจากการชนกันกับกาแล็กซีสีน้ำเงินขนาดเล็ก แรงโน้มถ่วงอันมหาศาลที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างวัตถุทั้งสองได้สร้างหางยาวที่ประกอบด้วยดาวฤกษ์และก๊าซ ซึ่งทอดยาวกว่า 280,000 ปีแสง! ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางฉากหลังของกาแล็กซีมากกว่า 6,000 แห่ง

กาแล็กซีลูกอ๊อดจัดเป็นกาแล็กซีชนิดก้นหอยแบบแยกส่วน (Spiral galaxy) การชนกันของกาแล็กซีสองแห่งเป็นสาเหตุของรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์นี้ โดยกาแล็กซีขนาดเล็กเคลื่อนที่ผ่านกาแล็กซีขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแรงไทดัล (tidal force) ที่ดึงดูดดาวฤกษ์ ก๊าซและฝุ่นออกจากกาแล็กซีขนาดใหญ่ ก่อตัวเป็นหางยาว

นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่า ในอนาคตหางของกาแล็กซีลูกอ๊อดจะค่อยๆ สลายตัวไป และดาวฤกษ์ในหางจะก่อตัวเป็นกาแล็กซีแคระ (dwarf galaxy) ซึ่งเป็นกาแล็กซีขนาดเล็กที่มีดาวฤกษ์จำนวนน้อยกว่ากาแล็กซีทั่วไปหลายเท่าตัว กาแล็กซีแคระเหล่านี้จะโคจรรอบกาแล็กซีลูกอ๊อด

การศึกษากาแล็กซีลูกอ๊อดมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการทำความเข้าใจวิวัฒนาการของกาแล็กซีและการก่อตัวของดาวฤกษ์ หลังจากการชนกันของกาแล็กซี การสังเกตการณ์กาแล็กซีลูกอ๊อดช่วยให้นักดาราศาสตร์เข้าใจถึงกระบวนการที่กาแล็กซีมีปฏิสัมพันธ์กันและรวมตัวกัน รวมถึงผลกระทบของการชนกันต่อการก่อตัวของดาวฤกษ์


ข้อมูลอ้างอิง:
NASA, H. Ford (JHU), G. Illingworth (USCS/LO), M. Clampin (STScI), G. Hartig (STScI), the ACS Science Team, and ESA