ในยุคแห่งการสำรวจอวกาศที่เฟื่องฟู การส่งดาวเทียม ยานอวกาศ และวัตถุอื่น ๆ ขึ้นสู่อวกาศกลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้มักทิ้งเศษซากและชิ้นส่วนที่ไม่ใช้งานไว้เบื้องหลัง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ที่เรียกว่า “ขยะอวกาศ” (Space Debris)

ขยะอวกาศประกอบด้วยวัตถุหลากหลายขนาด ตั้งแต่ชิ้นส่วนจรวดขนาดใหญ่ไปจนถึงเศษสีและฝุ่นผงขนาดเล็ก เมื่อมีปริมาณสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขยะอวกาศเหล่านี้จึงกลายเป็นภัยคุกคามที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อภารกิจสำรวจอวกาศและโลกของเราในอนาคต

หากดาวเทียมที่ยังใช้งานอยู่ได้รับความเสียหายจากขยะอวกาศ บริการต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่เราพึ่งพาอาจได้รับผลกระทบ การสื่อสาร ระบบนำทาง GPS การพยากรณ์อากาศ และแม้แต่การทำธุรกรรมทางการเงิน ล้วนต้องอาศัยดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก การหยุดชะงักของบริการเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสังคมและเศรษฐกิจ

ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศอย่างต่อเนื่อง หากปัญหาขยะอวกาศยังไม่ได้รับการแก้ไข อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนานี้ได้ ในอนาคต ปัญหาขยะอวกาศจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากการส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ขยะอวกาศที่เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น อาจมีมาตรการจากประชาคมโลกที่กดดันให้มีมาตรฐานการป้องกันขยะอวกาศ ซึ่งประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตาม

โชคดีที่ประเทศไทยมีบริษัทและองค์กรที่กำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ บริษัทเอมวัน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 สตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีอวกาศจากโครงการ Space Economy: Lifting Off 2021 ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ บริษัทนี้ได้พัฒนาดาวเทียมเอมวัน (EmOne) ซึ่งใช้เทคโนโลยีควบคุมความเร็วในการโคจรของวัตถุในอวกาศ โดยอาศัยหลักการถ่วงดึงเพื่อเร่งการตกของดาวเทียมกลับสู่ชั้นบรรยากาศโลก ช่วยลดปริมาณขยะอวกาศ

ในขณะเดียวกัน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการเฝ้าระวังทางอวกาศ (Space Situational Awareness) หรือ SSA ซึ่งทำหน้าที่ติดตามและประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับวัตถุในอวกาศ เช่น ดาวเทียมและขยะอวกาศ ระบบ SSA คาดการณ์ความเสี่ยงเพื่อป้องกันการชนกัน โดยวิเคราะห์ตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของวัตถุในอวกาศผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้องโทรทรรศน์และระบบติดตามสัญญาณดาวเทียม ข้อมูลที่รวบรวมได้จะถูกนำไปใช้ในการระบุตำแหน่งและติดตามวัตถุในอวกาศ

ปัญหาขยะอวกาศเป็นความท้าทายระดับโลกที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน การสะสมของขยะอวกาศไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามต่อภารกิจในอวกาศในอนาคตเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราบนโลกอีกด้วย โชคดีที่ประเทศไทยกำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ความพยายามเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับกิจกรรมทางอวกาศและเพื่อปกป้องโลกของเราจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากขยะอวกาศ


ข้อมูลอ้างอิง : NASA