ดาวศุกร์ (Venus) เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่สอง และเป็นดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุดในระบบสุริยะ ถึงแม้จะมีขนาดและความหนาแน่นใกล้เคียงกับโลก จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดาวเคราะห์ฝาแฝด” ของโลก แต่สภาพแวดล้อมบนดาวศุกร์นั้นแตกต่างจากโลกอย่างสิ้นเชิง และไม่มีดวงจันทร์บริวาร

ลักษณะทางกายภาพ

ขนาด: มีขนาดเล็กกว่าโลกเล็กน้อย โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12,104 กิโลเมตร
มวล: ประมาณ 81% ของมวลโลก
ความหนาแน่น: ใกล้เคียงกับโลก
แรงโน้มถ่วง: ประมาณ 90% ของแรงโน้มถ่วงโลก

การหมุนรอบตัวเอง
หมุนรอบตัวเองในทิศทางตรงกันข้ามกับดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ ใช้เวลา 243 วัน ในการหมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบ ซึ่งนานกว่าเวลาที่ใช้ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์

การโคจรรอบดวงอาทิตย์
ใช้เวลา 225 วัน ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ

บรรยากาศ
หนาแน่นมาก ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก ส่งผลให้อุณหภูมิพื้นผิวสูงมาก เฉลี่ยประมาณ 462 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนพอที่จะหลอมตะกั่วได้

พื้นผิว
เต็มไปด้วยภูเขาไฟ ที่ราบกว้างใหญ่ และหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ แต่ไม่มากเท่าบนดาวพุธหรือดวงจันทร์ เนื่องจากชั้นบรรยากาศหนาแน่นของดาวศุกร์ช่วยป้องกันวัตถุขนาดเล็กไม่ให้ตกถึงพื้นผิว

การสังเกตการณ์ดาวศุกร์

  • เป็นวัตถุที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้ารองจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
  • ปรากฏเป็นดาวประจำเมืองในเวลาหัวค่ำทางทิศตะวันตก หรือดาวประกายพรึกในเวลาเช้ามืดทางทิศตะวันออก

การสำรวจดาวศุกร์

  • ยานอวกาศหลายลำได้ถูกส่งไปสำรวจดาวศุกร์ ทั้งจากสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น
  • ยานที่ประสบความสำเร็จในการลงจอดบนดาวศุกร์เป็นครั้งแรกคือ Venera 7 ของสหภาพโซเวียตในปี 1970
  • ยาน Magellan ของสหรัฐอเมริกาได้ทำแผนที่พื้นผิวดาวศุกร์โดยละเอียดในช่วงต้นทศวรรษ 1990
  • ปัจจุบัน ยาน Venus Express ขององค์การอวกาศยุโรปกำลังโคจรรอบดาวศุกร์ และได้ส่งข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับบรรยากาศและสภาพภูมิอากาศของดาวศุกร์กลับมายังโลก

ข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจ

การค้นพบสัญญาณของฟอสฟีนในชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์ในปี 2020 ทำให้เกิดความตื่นเต้นในวงการวิทยาศาสตร์ เนื่องจากฟอสฟีนบนโลกมักเกิดจากกิจกรรมของสิ่งมีชีวิต อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าฟอสฟีนบนดาวศุกร์มีต้นกำเนิดจากสิ่งมีชีวิตหรือไม่

ภารกิจสำรวจดาวศุกร์ในอนาคต เช่น DAVINCI+ และ VERITAS ของ NASA และ EnVision ของ ESA มีกำหนดจะเริ่มต้นในช่วงปลายทศวรรษ 2020 และต้นทศวรรษ 2030 ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจดาวศุกร์ ดาวเคราะห์ฝาแฝดที่ลึกลับของโลกดียิ่งขึ้น


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

NASA
ESA