Sun-Death

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเชื้อเพลิงของดวงอาทิตย์หมดลง ในอีก 5,000 ล้านปีข้างหน้า

ดวงอาทิตย์มีอายุประมาณ 4,500 ล้านปีแล้ว ซึ่งอายุขัยของดวงอาทิตย์คือ 10,000 ล้านปี นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาดาวฤกษ์มากมายที่เหมือนดวงอาทิตย์ ทำให้รู้ว่า ระบบสุริยะจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคต

ขั้นแรก ดวงอาทิตย์จะขยายตัวโตขึ้น และเย็นลงเล็กน้อย เกิดเป็น “ดาวยักษ์แดง” เมื่อดวงอาทิตย์มาถึงจุดนี้ มันจะกลืนกินดาวเคราะห์ชั้นในของระบบสุริยะทั้งหมด รวมถึงโลกของเรา

ท้ายที่สุดดวงอาทิตย์จะกลายเป็นดาวแคระขาว ที่มีขนาดเล็กมาก มีความหนาแน่นสูง และนี่คือวาระสุดท้ายของดวงอาทิตย์ใน อีก 5,000 ล้านปีข้างหน้าครับ

แต่ดาวฤกษ์ก็ยังมีชีวิตหลังความตาย สสารที่กระจายไปในอวกาศมันจะไปรวมตัวกัน ก่อเกิดเป็นดาวฤกษ์และดาวเคราะห์รุ่นใหม่ ๆ ต่อไป

จุดจบของดวงอาทิตย์จะเกิดขึ้นในกระบวนการหลายขั้นตอน สามารถแบ่งได้เป็นหลายช่วงระยะเวลาตามการเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์ดังนี้
  1. ระยะเวลาหลักของดวงอาทิตย์ (Main Sequence): ในช่วงนี้ ดวงอาทิตย์จะคงที่และสร้างพลังงานโดยการหลอมรวมไฮโดรเจนเป็นฮีเลียมในแกนกลาง กระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 10,000 ล้านปี
  2. ระยะเวลาดาวยักษ์แดง (Red Giant): เมื่อไฮโดรเจนในแกนกลางหมด ดวงอาทิตย์จะเริ่มขยายตัวกลายเป็นยักษ์แดง ขนาดของมันจะขยายตัวออกไปจนถึงวงโคจรของดาวพฤหัสบดี การหลอมรวมจะย้ายไปที่ชั้นเปลือกที่อยู่รอบๆ แกนกลาง และดวงอาทิตย์จะเริ่มหลอมรวมฮีเลียมเป็นธาตุที่หนักขึ้นเช่นคาร์บอนและออกซิเจน
  3. ระยะเวลาของการสูญเสียมวล (Planetary Nebula): หลังจากการขยายตัวเป็นยักษ์แดง ดวงอาทิตย์จะไม่สามารถรักษาชั้นบรรยากาศรอบนอกไว้ได้ ชั้นบรรยากาศจะถูกปลดปล่อยออกไปในอวกาศกลายเป็นเนบิวล่า หรือหมอกของดาวเคราะห์
  4. ระยะเวลาของดาวแคระขาว (White Dwarf): แกนกลางที่เหลืออยู่ของดวงอาทิตย์จะกลายเป็นดาวแคระขาว ซึ่งเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กและหนาแน่นมาก ไม่มีการหลอมรวมเกิดขึ้นอีกและดวงอาทิตย์จะค่อยๆ เย็นลงเรื่อยๆ