เจอราร์ด ปีเตอร์ ไคเปอร์ (Gerard Peter Kuiper) เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1905 ในเมืองฮาเรนคาร์สเปิล ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาเป็นบุตรชายของช่างตัดเสื้อ แต่ทว่าไคเปอร์กลับหลงใหลในดวงดาวตั้งแต่เด็ก เล่ากันว่าเขาใช้สายตาอันเฉียบคมมองเห็นดาวพฤหัสบดีและดวงจันทร์บริวารทั้งสี่ได้ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ! ความสนใจในจักรวาลนี้เองที่ผลักดันให้เขาเลือกศึกษาและทำงานในสายดาราศาสตร์ ไคเปอร์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไลเดนในปี ค.ศ. 1933 ณ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เองที่เขาได้มีโอกาสศึกษาภายใต้การดูแลของนักดาราศาสตร์ชื่อดังอย่างไอนาร์ เฮิร์ตสปรอง (Ejnar Hertzsprung) ผู้คิดค้นไดอะแกรมเฮิร์ตสปรอง-รัสเซลล์ (Hertzsprung-Russell diagram) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษาวิวัฒนาการและการจัดประเภทของดาวฤกษ์
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้าในสายงานวิจัย ไคเปอร์ตัดสินใจย้ายไปยังสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1933 เพื่อทำงานที่หอดูดาวลิก (Lick Observatory) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นี่เขาได้มีส่วนร่วมในการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของดาวฤกษ์ และเริ่มต้นการวิจัยเกี่ยวกับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ด้วยความสามารถและผลงานที่โดดเด่น ไคเปอร์ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการหอดูดาวแมคโดนัลด์ (McDonald Observatory) ในรัฐเท็กซัส ระหว่างปี ค.ศ. 1947 ถึง 1949 ต่อมาเขาย้ายไปเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยชิคาโก และเป็นผู้อำนวยการหอดูดาวเยอร์คีส (Yerkes Observatory) ในรัฐวิสคอนซิน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 ถึง 1960 ในช่วงเวลานี้เองที่เขาได้บ่มเพาะนักดาราศาสตร์รุ่นใหม่หลายคน รวมถึงคาร์ล เซแกน (Carl Sagan) นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังผู้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้ทางดาราศาสตร์สู่สาธารณชน
ไคเปอร์ค้นพบดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส (มิแรนดา) ในปี ค.ศ. 1948 โดยอาศัยภาพถ่ายจากกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ การค้นพบนี้สร้างความตื่นเต้นในวงการดาราศาสตร์ เพราะเป็นการค้นพบดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสครั้งแรกในรอบเกือบ 100 ปี ต่อมาในปี ค.ศ. 1949 เขาได้ค้นพบดวงจันทร์ของดาวเนปจูน (นีรีด) ซึ่งเป็นดวงจันทร์ที่มีวงโคจรแปลกประหลาดที่สุดในระบบสุริยะ
นอกจากนี้ ไคเปอร์ยังเป็นคนแรกที่ยืนยันการมีอยู่ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร และมีเทนในชั้นบรรยากาศของดวงจันทร์ไททันของดาวเสาร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่อาจเอื้อต่อการดำรงชีวิต ไคเปอร์มีส่วนสำคัญในการพัฒนาทฤษฎีเกี่ยวกับการกำเนิดของระบบสุริยะ เขาได้เสนอแบบจำลองที่อธิบายว่า ดาวเคราะห์ก่อตัวขึ้นจากจานฝุ่นและก๊าซที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ แบบจำลองนี้ช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับการเรียงตัวของดาวเคราะห์ และองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันของดาวเคราะห์แต่ละดวง ในปี ค.ศ. 1951 ไคเปอร์ได้ตั้งสมมติฐานว่ามีแถบของวัตถุน้ำแข็งขนาดเล็กอยู่เลยวงโคจรของดาวเนปจูนออกไป เขาอธิบายว่าวัตถุเหล่านี้เป็นเศษซากที่หลงเหลือจากการก่อตัวของระบบสุริยะ แม้ว่าในช่วงแรกจะยังไม่มีการค้นพบวัตถุในแถบนี้โดยตรง แต่ต่อมานักดาราศาสตร์ก็ได้ค้นพบวัตถุขนาดเล็กจำนวนมากในบริเวณดังกล่าว จึงได้ตั้งชื่อว่า “แถบไคเปอร์” เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา แถบไคเปอร์เป็นแหล่งกำเนิดของดาวหางคาบสั้นจำนวนมาก เช่น ดาวหางฮัลเลย์ ไคเปอร์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสาขาวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ เขาสนับสนุนการสำรวจอวกาศ และผลักดันให้มีการศึกษาองค์ประกอบของดาวเคราะห์อย่างละเอียด ไคเปอร์เชื่อว่าการศึกษาดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ จะช่วยให้มนุษย์เข้าใจโลกของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
ไคเปอร์ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมายตลอดชีวิตการทำงาน หนึ่งในรางวัลที่สำคัญคือ เหรียญทองจากราชสมาคมดาราศาสตร์ในปี ค.ศ. 1959 ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของราชสมาคมดาราศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีหลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ ดาวพุธ และดาวอังคาร ที่ตั้งชื่อตามเขา เพื่อเป็นเกียรติแก่ผลงานอันโดดเด่น ดาวเคราะห์น้อย 1776 ไคเปอร์ ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1960 และได้รับการตั้งชื่อตามชื่อของเขา ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้โคจรอยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยหลัก ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี การค้นพบแถบไคเปอร์นับเป็นการปฏิวัติความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุริยะ วัตถุในแถบไคเปอร์ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาประวัติศาสตร์ยุคแรกเริ่มของระบบสุริยะ และไขปริศนาเกี่ยวกับการกำเนิดของดาวเคราะห์
เจอราร์ด ไคเปอร์ เสียชีวิตในเม็กซิโกซิตี้ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1973 เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักดาราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 ผลงานของเขามีส่วนสำคัญในการปฏิวัติความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุริยะ และวางรากฐานสำหรับการศึกษาดาวเคราะห์ในยุคปัจจุบัน ไคเปอร์คือผู้บุกเบิกวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์อย่างแท้จริง และเป็นแรงบันดาลใจให้นักดาราศาสตร์รุ่นต่อๆ มา
ข้อมูลอ้างอิง: Wikipedia