เปรียบเทียบความสามารถระหว่างกล้องฮับเบิลกับกล้องเจมส์เวบบ์

กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล และกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ ต่างก็เป็นเสมือนดวงตาที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อส่องมองจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งทั้งสองกล้องนี้มีจุดเด่นและความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป

กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope)

ฮับเบิลเป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศตัวแรกที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในปี ค.ศ. 1990 และได้ปฏิวัติวงการดาราศาสตร์ด้วยภาพถ่ายอันน่าทึ่งของจักรวาล มองเห็นได้ในช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็นและอัลตราไวโอเลต ทำให้ฮับเบิลสามารถจับภาพวัตถุที่สว่างและร้อนแรงในจักรวาลได้ เช่น ดาวฤกษ์เกิดใหม่ กาแล็กซีที่กำลังชนกัน และเนบิวลาหลากสีสัน

ฮับเบิลมีส่วนช่วยในการค้นพบที่สำคัญหลายอย่าง เช่น การขยายตัวของเอกภพ อายุของเอกภพ และการมีอยู่ของหลุมดำมวลมหาศาล แม้ว่ากล้องฮับเบิลปฏิบัติหน้าที่ผ่านมานานหลายทศวรรษ แต่ก็ยังคงทำงานและส่งภาพถ่ายอันน่าตื่นตาตื่นใจกลับมายังโลกได้จนถึงปัจจุบัน

กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เวบบ์ (James Webb Space Telescope)

เวบบ์ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในปี ค.ศ. 2021 โดยถูกออกแบบมาเพื่อสานต่อภารกิจของฮับเบิล และขยายขอบเขตการสำรวจจักรวาลให้ไกลยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการมองเห็นได้ในช่วงคลื่นอินฟราเรด ทำให้เวบบ์สามารถมองทะลุผ่านฝุ่นและก๊าซในอวกาศ และสังเกตวัตถุที่เย็นและห่างไกลได้ เช่น ดาวฤกษ์แรกเกิด กาแล็กซีที่อยู่ไกลโพ้น และดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ

เวบบ์มีกระจกปฐมภูมิขนาดใหญ่กว่าฮับเบิลถึง 6 เท่า และมีความไวแสงมากกว่า 100 เท่า ทำให้สามารถจับภาพวัตถุที่จางและเลือนรางได้ ซึ่งขณะนี้เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสำรวจจักรวาล คาดว่าจะนำไปสู่การค้นพบใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นอีกมากมาย

สรุปจุดเด่น

• ฮับเบิล เหมาะสำหรับการสังเกตวัตถุที่สว่างและร้อนแรงในช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็นและอัลตราไวโอเลต
• เวบบ์ เหมาะสำหรับการสังเกตวัตถุที่เย็นและห่างไกลในช่วงคลื่นอินฟราเรด และมีศักยภาพในการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในจักรวาล

ทั้งฮับเบิลและเวบบ์ ต่างเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้มนุษย์เข้าใจจักรวาลได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การทำงานร่วมกันของกล้องทั้งสองตัว จะนำไปสู่การไขปริศนาแห่งเอกภพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไปในการสำรวจอวกาศต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลอ้างอิง : NASA